เอกสารในการเทียบโอน 9 มาตรฐาน




เอกสารที่ต้องเตรียมในการเทียบโอน ๙ มาตรฐาน ของคุรุสภา

จาก one trading


เอกสารที่ใช้
๑. สำเนาบัตรประจำตัวประชาน
๒. สำเนาทะเบียนบ้าน
๓. หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ(ถ้ามี)
๔. สำเนาปริญาบัตรหรือสำเนาทรานสคริปต์และสำเนาใบรับรองการสำเร็จการศึกษา
๕. เอกสารคำอธิบายรายวิชาที่ใช้เีทียบโอน 9 มาตรฐาน
๖. สำเนาระเบียนสะสม (รบ.) ปวส

###############################################################



















Responses

1 Respones to "เอกสารในการเทียบโอน 9 มาตรฐาน"

Unknown กล่าวว่า...

การเทียบโอนความรู้และทดสอบความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพครู

การประกอบวิชาชีพครูในปัจจุบันภายใต้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 มาตรา 53 วรรคสอง ได้กำหนดให้ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ทั้งของรัฐและเอกชน ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามที่กฎหมายกำหนด
และพระราชบัญญัติสภาครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 มาตรา 43 บัญญัติไว้ว่า ให้วิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้บริหารการศึกษาเป็นวิชาชีพควบคุม และมาตรา 44 ได้กำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพควบคุม ต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
(ก) คุณสมบัติ
(1) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
(2) มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่า หรือมีคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง
(3) ผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี และผ่านเกณฑ์การประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด
(ข) ลักษณะต้องห้าม
(1) เป็นผู้ที่ความประพฤติเสื่อมเสีย หรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี
(2) เป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(3) เคยต้องโทษจำคุกในคดีที่คุรุสภาเห็นว่าอาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
บทบัญญัติตามกฎหมายการศึกษาทั้ง 2 ฉบับที่กล่าวถึงข้างต้น ชี้ให้เห็นว่า ครู ซึ่งหมายถึงบุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพหลักทางด้านการเรียนการสอน และส่งเสริมการเรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญา ทั้งของรัฐและเอกชน เป็นวิชาชีพควบคุม โดยจะต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพควบคุม
สถาบันที่ทำหน้าที่ผลิตครูในปัจจุบันได้ดำเนินการจัดการศึกษาทางด้านศึกษาศาสตร์/ครุศาสตร์ให้เป็นไปตามบทบัญญัติดังกล่าวข้างต้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสมบัติ ข้อ (3) ที่กำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจะต้องผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาไม่น้อยกว่า 1 ปี
และผ่านการประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด ด้วยการเปิดสอนหลักสูตรครู 5 ปี ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยผลิตครู และหน่วยใช้ครูมีความเข้าใจตรงกัน
อีกไม่ช้าไม่นานก็จะมีครูที่จบการศึกษาตามหลักสูตรครู 5 ปี ออกสู่สังคมไทย
ขณะเดียวกันได้เกิดช่องทางอีกช่องทางหนึ่งสำหรับผู้ที่สนใจจะเป็นผู้ประกอบวิชาชีพครูเมื่อประธานกรรมการคุรุสภา (ศาสตราจารย์เสริมศักดิ์ วิศาลาภรณ์) ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการคุรุสภา 2 ฉบับ
ฉบับแรกเรื่อง รับสมัครสอบเทียบโอนความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพของคุรุสภา
และฉบับที่สองเรื่อง รับสมัครทดสอบความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพครู
ทั้งสองฉบับมีเป้าหมายตรงกันสำหรับผู้ที่ประสงค์จะประกอบวิชาชีพครูที่มีมาตรฐานความรู้ไม่ตรงตามที่กำหนดในข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ และจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ.2548 และได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ขอรับการเทียบโอนความรู้ และผู้ขอรับการทดสอบ เหมือนกัน คือมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ มีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี หรือเทียบเท่า และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 44 (ข) แห่งพระราชบัญญัติสภาครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546
จะเห็นว่าประกาศของคุรุสภาทั้ง 2 ฉบับนี้เป็นการเปิดกว้างให้กับผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไปในสาขาวิชาต่างๆ ที่ต้องการเข้าสู่วิชาชีพครูเป็นแนวทางที่น่าสนใจมาก
พิจารณาในแง่ของสิทธิและเสรีภาพในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 นับว่าเป็นแนวทางที่เหมาะสม รวมทั้งแนวทางดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนครูทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาขาที่มีความขาดแคลน ประกาศทั้ง 2 ฉบับนี้จะส่งผลให้ได้ครูที่มีคุณวุฒิด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษา เทคโนโลยี ช่าง ฯลฯ ในเวลาที่รวดเร็ว
ซึ่งตามข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการรับรองความรู้ และประสบการณ์วิชาชีพเพื่อการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พ.ศ.2550 ข้อ 9 ระบุไว้ว่า ให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาออกวุฒิบัตรเป็นหลักฐานการรับรองความรู้ตามมาตรฐานที่ผ่านการรับรองแล้ว
และในข้อ 10 ผู้ผ่านการรับรองความรู้ครบตามมาตรฐานความรู้จะได้รับใบอนุญาตปฏิบัติการสอนสำหรับวิชาชีพครู ผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติการสอนเมื่อปฏิบัติการสอนเป็นเวลาต่อเนื่องไม่น้อยกว่าหนึ่งปี และผ่านการรับรองจากสถานศึกษาให้ทำหลักฐานการผ่านการรับรองมาขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
ข้อกำหนดดังที่กล่าวนี้เป็นการสร้าง หรือพัฒนาอีกแนวทางหนึ่งไปสู่วิชาชีพครูที่ถูกต้องตามที่กฎหมายบัญญัติ รวมทั้งเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างจะมีประสิทธิภาพในการผลิตครู หวังว่ามาตรการตามแนวทางนี้ประเทศไทยจะเพิ่มปริมาณ และคุณภาพครูสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ นับว่าเป็นการปฏิบัติการเชิงรุกของคุรุสภาอีกแนวทางหนึ่งในการพัฒนาวิชาชีพครู

ที่มา สุรชัย เทียนขาว มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี


24 สิงหาคม 2555 เวลา 19:41

แสดงความคิดเห็น

 

TRADiNG POST

Stay Connected

Popular Posts

Return to top of page One Trading แนวข้อสอบ | หนังสือสอบมาตรฐานวิชาชีพครู วุฒิครู ใบวุฒิครู 2555 | ครูนอกบ้าน ครูไทย ครู 4 ปี ใบประกอบวิชาชีพครู